บทความที่ได้รับความนิยม

วันเสาร์, กรกฎาคม 25, 2552

ย้อนอดีต

บทความนี้จะนำเสนอเรื่องราวการเดินทางย้อนอดีตไปสู่สังคมชนบท นัยว่าย้อนไปสู่ยุคแห่งวัยที่ผู้เขียนแก้ผ้าโดดน้ำเล่น ในลำห้วย หนอง คลองบึง สัมผัสกับกลิ่นโคลน สาบควาย และวัฒนธรรมการเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ ซึ่งหาได้ยากในใจกลางของเมืองหลวงอย่างกรุงเทพฯ
กิจกรรมนี้จัดขึ้นโดยแนวร่วมของชมรมผู้บริหารอำเภอกาบเชิง และการเดินทางเริ่มขึ้นที่ โรงเรียนกาบเชิงมิตรภาพที่ 190 จุดหมายปลายทางคือ เวียงจันทร์ และวังเวียง ราชอาณาจักรลาว ขบวนการเดินทางครั้งนี้เริ่มจากผู้ก่อการหลายๆ คน (ส่วนใหญ่ก็จากสมาชิกชมรมนั่นแหละรวมทั้งผมด้วย) โดยเวลาล้อหมุนที่จุดแรก 22.00 น. แต่บังเอิญว่ามีสมาชิกบางท่านเดินทางมาไม่ทันเลยบวกไปอีก +30 นาที ซึ่งสมาชิกที่ว่านี้ติดภารกิจเร่งด่วนทีบ้านปราสาทเบง เพราะ รอง ผอ.สพท.สร. 3 ลำดับที่ 11 มาเลี้ยงส่งที่นั่นเนื่องจากไม่สามารถร่วมเดินทางไปตามคำเชิญของชมรมฯ ได้ ก็เลยมาขอขอบคุณและเลี้ยงส่งประมาณนี้แหละ คนที่อยู่ร่วมงานเลี้ยงส่งก็มี ผอ.รร.บ้านแนงมุด เจ้าของสถานที่ ผอ.รร.บ้านบักจรัง และมนุษย์เหล็กอย่าง ผอ.รร.บ้านโคกกลางสามัคคี เป็นปฐมเหตุแห่ง +30 นาที
คณะเดินทางตามเส้นทางที่คิดว่าลัดที่สุด และสะดวกที่สุด ถึงจังหวัดหนองคายก็รุ่งสาง บนรถก็มีทั้งท่านที่พักผ่อนด้วยการนอน และการพักผ่อนรูปแบบอื่นๆ ที่ไม่ใช่การนอน ก็มี หลังจากอาบนำเปลี่ยนเครื่องแต่งกายบ้างนิดหน่อยก็เตรียมข้ามไปยังบ้านน้องของพี่ด้วยจิตใจที่ชื่นมื่น และแววตาแห่งความหวัง
หลายท่านยิ้มแย้มแจ่มใส ในใจคงคิดว่าจะเจอใครสักคนในไม่ช้า อาจเป็นคนที่เคยรู้จักตั้งแต่ชาติปางก่อน อดีตคนรักเก่า อย่างนี้เป็นต้น ส่วนท่านใดที่มีผู้ติดตามก็ยิ้มแย้มแจ่มใสไม่แพ้กัน แต่อนิจจาไม่อาจคิดเรื่องอื่นได้
เวลาประมาณ 08.30 น. คณะเดินทางถึงนครเวียงจันทร์ อันเป็นเมืองหลวงของราชอาณาจักรลาว และเป็นเมืองหลวงแห่งที่สอง เมืองหลวงแห่งแรกถ้าจำไม่ผิดก็คือ หลวงพระบาง ซึ่งทุกวันได้ขึ้นทะเบียนเป็นเมืองมรดกโลกไปแล้ว สถานที่ที่เราเดินทางไปเยี่ยมชมแห่งแรก คือ วัดพระธาตุหลวง ที่มีเจดีย์บรรจุพระบรมสารีริกธาตุบรรจุอยู่ และเป็นสถานที่ที่ศักดิ์สิทธิ์อันเป็นที่เคารพสัการะของพี่น้องจากฝั่งไทยและลาว ในสถานที่แห่งเดียวกันนี้ยังเป็นที่ตั้งของอนุสาวรีย์ของพระชัยเชษฐา ซึ่งเป็นอดีตกษัตริย์ในสมัยยุคก่อตั้งลาว
ประตูชัย อนุสาวรีย์แห่งชัยชนะของการต่อสู้กับระบอบจักวรรดิ์นิยมฝรั่งเศษ สูงจนต้องเหลียวมองจนคอตั้งบ่า ณ ที่แห่งนี้เองเหมือนกับสนามหลวงของเมืองไทย มีผู้คนพลุกพล่านไปมา ส่วนใหญ่ก็พี่ไทยครับที่มากันเป็นคณะเล็กบ้าง คณะใหญ่บ้าง หรือมาแบบส่วนตัวบ้างเต็มไปหมด ผู้เขียนยืนสูดอากาศที่คิดว่าบริสุทธิ์เข้าไปจนเต็มปอดสองสามอึก ช่างสดชื่นอะไรปานนี้ กลิ่นสาบสาวลาวจะสดชื่นอย่างนี้ไหมหนอ (อ.สุชาติเจ้าของและผู้จัดการสุชาติทัวร์ ยืนอยู่ข้างๆ แอบกระซิบเบาๆ)

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น