ระบบ (System) หากให้คำจำกัดความเพื่อให้เข้าใจกันง่าย มักจะหมายถึง ส่วนต่างๆ จำนวนหนึ่ง ซึ่งมีความสัมพันธ์และขึ้นอยู่ต่อกัน เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน เพื่อกระทำบางสิ่งบางอย่างให้สำเร็จผลตามที่ต้องการ และมักอธิบายต่ไปว่า ระบบมักจะประกอบไปด้วยองค์ประกอบที่สำคัญ คือ
1. ปัจจัยนำเข้า
2. กระบวนการ
3. ผลลัพท์
4. ผลสะท้อนกลับ
หากเปรียบเทียบระบบให้เข้าใจกันง่ายยิ่งขึ้น ให้พิจารณาโรงสีข้าวครับ (ส่วนท่านใดจะเอาไปเปรียบเทียบกับอย่างอื่นก็แล้วแต่ชอบครับ) ซึ่งเป็นกระบวนการผลิตข้าวสารที่มีอยู่ทั่วไป ทั้งขนาดใหญ่และขนาดเล็ก ระบบของโรงสี จะเป็นอย่างนี้ คือ
1. ปัจจัยนำเข้า ได้แก่ ข้าวเปลือก (ทั้งข้าวจ้าว ข้าวเหนียว) ซึ่งโรงสีจะมีที่เทข้างเปลือกที่มีลักษณะแตกต่างกันออกไป ข้าวเปลือกจะถูกร่อนโดยตะแกรงลวดเพื่อเอาเศษฝุ่น ผง ดิน หิน เศษฟางข้าว ออกไปก่อน นับว่าเป็นวิธีคัดเลือกวัตถุดิบให้มีคุณภาพก่อนป้อนเข้าสู่ตอนต่อไป หลังจากผ่านการคัดเลือกโดยชาวนามาครั้งหนึ่งแล้ว
2. กระบวนการ ข้าวเปลือกที่คัดเลือกแล้วจะถูกตักและลำเลียงโดยสายพาน นำข้าวไปสู่ลูกหิน ข้าวจะถูกลูกหินกระเทาะให้เปลือกหลุดโดยมียางขัดข้าวเป็นตัวรองรับการกระแทกและขัด หากเป็นโรงสีที่มีสองลูกหินขึ้นไป ลูกหินแรกจะเรียกว่าลูกหินข้าวดำ เพราะขัดให้เปลือกข้าวหลุดออกมาก่อน ขณะเดียวกันเปลือกข้าวจะถูกพัดลมเป่าออกไปทิ้งเป็นแกลบ จากนั้นข้าวจะถูกลำเลียงไปลูกหินที่สอง ซึ่งจะเรียกว่าลูกหินข้าวขาว ข้าวจะถูกขัดมากขึ้นจนขาว และจะมีรำเกิดขึ้นในช่วงการขัดนี้เอง รำจะถูกแยกไปส่วนหนึ่ง ข้าวหักหรือปลายข้าวจะถูกแยกไปส่วนหนึ่ง ข้าวที่ไม่ค่อยหักจะแยกไปส่วนหนึ่ง
3. ผลลัพท์ ก็คือข้าวสารแน่นอนละครับ เพราะคนที่เอาไปสีลำดับแรกต้องการข้าวสาร ลำดับที่สองต้องการรำข้าวครับ เอาไปเป็นอาหารสัตว์ หรือเอาไปใส่ปลาแดกก็ได้ (เห็นบ้านผมเขาทำ) ข้าวสารจะออกมาสวย หรือไม่สวยเม็ดหักมีเยอะนั้น นอกจากจะขึ้นอยู่กับคุณภาพของข้าวเปลือกที่เก็บเกี่ยวได้ทันกาล ฝนไม่ตกใส่ขณะที่ข้าวเปลือกผึ่งแดดแล้ว ฝีมือในการปรับลูกหินของคนควบคุมกระบวนการสีเทคนิคการสีของแต่ละคนก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่ง
4. ผลสะท้อนกลับ คือความพึงพอใจของคนที่เอาข้าวมาสี ซึ่งก็คือผู้มีส่วนได้ส่วนเสียนั่นเอง หากผลที่ออกมาผู้มีส่วนได้ส่วนเสียนั้นพึงพอใจ ก็มักจะได้รับคำชื่นชมยกย่อง เลื่องลือ ไปตามกระแสลมปาก ว่าคุณภาพของโรงสีนี้ ดีนะ่ เม็ดข้าวออกมาสวย ข้าวหักมีน้อย ได้เยอะอีกต่างหาก ไม่มีสะเก็ตหินเจือปน ไม่มีกาก(ข้าวเปลือกที่กระเทาะไม่ออก) ซาว(ล้างนำ้้ำ)ครั้งเดียวหุงได้เลย ลูกค้าก็จะแห่แหนกันมาสีข้าวที่โรงสีนั้นมากเป็นพิเศษ หากคุณภาพเป็นตรงกันข้ามกับที่กล่าวมา โรงสีนั้นก็จะได้รับ การป้อย การด่า จากสรรเสริญ ก็จะเป็นการสาปแช่ง ไม่เอาไปสีอีกแล้ว มีลูกบอกลูก มีหลานบอกหลาน ญาติพี่น้องมีเท่าไรบอกให้หมดอย่าให้เอาข้าวไปสีโรงสีนี้อีกเด้อ (กรณีมีหลายโรงเลือกได้ถ้ามีโรงเดียวก็จำยอมเว้นแต่ว่าจะขยันตำข้าวซ้อมมือ)
มองกระบวนการในโรงสีก็เหมือนกระบวนการในโรงเรียน ต่างกันบ้างก็ตรงการคัดเลือกวัตถุดิบเราไม่สามารถเลือกได้เนื่องจากเป็นโรงเรียนรัฐที่จัดการศึกษาให้กับทุกคน (Education for All) ไม่ว่ายากดีมีจนอย่างไรจัดสอนให้ทั้งหมด ดังนั้นคุณภาพที่ออกมาจึงควรได้พิจารณาคุณภาพของวัตถุดิบด้วย อย่ามองแต่คุณภาพของกระบวนการสี คุณภาพ เทคนิค วิธีการของคนสีข้าว เป็นสำคัญ
ท้ายบทความฉบับนี้ขอแสดงความเสียใจกับพี่น้องเพื่อนครูในสามจังหวัดชายแดนภาคใด้ด้วยครับ ที่ได้รับความเดือนทั้งทางร่างกายและจิตใจ จากความเหี้ยมโหดผิดจากมนุษย์ของบุคคลผู้ไม่หวังดีต่อประเทศชาติบ้านเมืองนี้ ขอประนามการกระทำของกลุ่มบุคคลดังกล่าวต่อเพื่อนครูอันเป็นที่รักของศิษย์ ขอให้เขาเหล่านั้นพบกับความวิบัติ ตกนรกอเวจีโดยเร็ว
"ปัญญา ทำให้มนุษย์คิดค้นประดิษฐ์เครื่องมือเพื่อใช้ทุ่นแรงในการทำงาน ปัญญาทำให้มนุษย์รู้ว่าอะไรควรไม่ควร อะไรดีหรือไม่ดีอย่างไร ปัญญาทำให้มนุษย์แสวงหาคำตอบของข้อสงสัยที่เกิดขึ้น ในชีวิตและของสิ่งที่พบเห็นในธรรมชาติ"
บทความที่ได้รับความนิยม
-
ผมเกิดในยุคสงครามเวียดนามกำลังดุเดือด เมื่อเริ่มอ่านคล่องเขียนคล่อง และอ่านได้อย่างมีวิจารณญาณแล้ว จึงชื่นชอบที่จะศึกษาเรื่อ...
-
เทคนิคการปกครองชั้นเรียนของครู เทคนิคหรือวิธีการที่ครูใช้ปกครองชั้นเรียนมีส่วนส่งเสริมในการสร้างบรรยากาศทางจิต วิทยา กล่าวคือ ถ้า...
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น