บทความที่ได้รับความนิยม

วันจันทร์, กันยายน 19, 2559

บุณคุณข้าวก้นบาตร


           

ช่วงปี  พ.ศ. ๒๕๒๐ – ๒๕๒๕  วัดในตัวเมืองรัตนบุรีมี ๓ วัด  คือ  วัดใต้บูรพาราม  วัดกลาง  และวัดเหนือ  ผมได้มาอยู่วัดใต้บูรพาราม  อาศัยที่ซุกหัวนอนเรียนหนังสือ  และข้าวก้นบาตร..ประทังชีวิต..



วัดใต้บูรพาราม  ตอนนั้นมีกุฏิ    หลัง

          หลังแรกเรียกว่ากุฏิน้อย เจ้าอาวาสอยู่ (พระสมุห์ประสงค์  สนฺตจิตโต) หลวงพี่จุล  และ  ผม 

          หลังที่สองกุฏิใหญ่ หลวงพี่วิจิตร  และพระ  เณร  ลูกศิษย์วัดอีกหลายคน 


          หลังที่สามกุฏิหัวนอน เป็นกุฏิเล็กใต้ถุนสูง มีหลวงอาทองพูน  กับหลวงพี่นัน  และเณรอีก ๒  รูป  หลังที่สี่กุฏินายอร่าม (นายอร่าม  อามรดิษ  ผู้สร้างถวาย) มีหลวงตาชื่น  และเณร ๒ รูป  (ขณะนั้นกำลังสร้างกุฏิใหญ่)

ชีวิตลูกศิษย์วัด  ทำอะไรบ้าง 

          ศิษย์วัดทุกคนต้องปฏิบัติงานทุกวัน   ห้ามขาด  ห้ามลา  ห้ามอู้  เพราะหลวงพ่อเจ้าอาวาสคุมงานเอง  กลับจากโรงเรียนค่ำไม่ได้  (จึงไม่มีคนใดได้อยู่ชุมนุมดนตรีเลย )  ภารกิจสำคัญประจำวัน  คือ

          ภารกิจในการทำความสะอาด  ปัด  กวาด  เช็ด  ถู ตั้งแต่พื้นกุฏิ  ลานวัด  ไปจนถึงห้องส้วม

          ภารกิจในการพัฒนา  ปลูกต้นไม้  ดายหญ้า  ขุดร่องน้ำ  กำจัดขยะ

          ภารกิจไปจ่ายปิ่นโต  ไปรับปิ่นโต  เดินบิณฑบาตตามพระแยกเป็นสายๆ 

ข้าวที่บิณฑบาตมาจะถูกเทรวมกันแยกออกเป็น ๓ – ๔ กาละมัง 

  กาละมัง  ต่อการฉัน    วง ๆ ละ  ๔ – ๖  รูป  ฉันเช้า  และเพล  เย็นเป็นของศิษย์วัด

บางวัน..ข้าวก้นบาตรบูด...ก็ต้องกิน..ไม่มีทางเลือก...ในยามอด

วันไหนคนใส่บาตรน้อย..กับข้าวเหลือถึงลูกศิษย์...ก็น้อยเต็มที..

ต้องอาศัยอาหารสำรอง  คือข้าวบูด  กับปลาแดกสับ..

วันพระใหญ่..วันเข้าพรรษา..และวันสำคัญทางศาสนาไม่อดตาย..ของกินเยอะ

แต่กว่าจะได้กิน..หน้าที่ลูกศิษย์วัด..ต้องอยู่..ช่วยประเคนของถวายพระ...ก็เกือบสามโมงเช้า

ไปโรงเรียนสาย  เจอไม้เรียว  อ.สมหมาย  เจริญรัตน์  อ.ยนต์  ยงค์รัมย์  ขาประจำจนท่านขี้เกียจตี (ท่านบอกว่า  “วันนี้วันพระครูไม่ตีเธอละกัน...” ขอบคุณครับครู..)

ทำบุญเสร็จแล้ว..เวลาพระให้พรญาติโยม...ลูกศิษย์ก็ได้ฟังซึมซับเข้าไปทุกวัน

ฟังพระสวดบ่อยๆ..จนสวดได้คล่องโดยไม่ต้องท่อง..สวดช่วยพระดังๆ..ญาติโยมพอใจ

กลับจากโรงเรียน...แต่ละวัน..หน้าที่หลัก..ต้องเดินเอาปิ่นโต..ไปส่งตามบ้าน

ส่งเสร็จ..รีบกลับมาสุมหัวกันที่กุฏิหลวงพ่อ..เพื่อสวดมนต์ทำวัตรเย็น

 ใครขาดทำวัตรเย็น...มีหวัง..โดนแส้...สายไฟเบอร์ ๓๕ ..ของหลวงพ่อ

       วันมาฆบูชา  วันอาสาฬบูชา  วันวิสาขบูชา  เข้าพรรษา  ออกพรรษา 

ตอนเย็นเวียนเทียน...สาวๆ  ข้างวัด..คุ้มใต้  สาวร้านศรีไทย (ประจงจิต) สาวคุ้มบ้านหม้อ 
สาวคุ้มห้วย  ก็มามาเวียนเทียนที่วัดเยอะเลยสวยๆ ทั้งนั้น

หนุ่มๆ..ลูกศิษย์วัด..จะได้เจอสาวๆ..ก็ตอนเวียนเทียน..นี่แหละน้า...

หนุ่มๆ  ลูกศิษย์วัด...ตั้งใจรอคอย..ถึงเวลาเวียนเทียน...

รอบแรก...พุทโธ...รอบสอง..ธัมโม...รอบสาม..สังโฆ  รอบสี่  โฮ้หิ้ว...สาวๆ  ยิ้มให้

วัดใต้บูรพาราม    เป็นวัดที่มีเมรุเผาศพเพียงวัดเดียวในตอนนั้น  ผมอยู่กุฏิเจ้าอาวาส  พระ  เณร  ศิษย์วัด  พากันเรียกผมว่า “เด็กเส้น”  (ซึ่งผมไม่ค่อยปลื้มอกปลื้มใจเท่าไหร่เลย) 

ผมจึงมีหน้าที่พิเศษต่างจากลูกศิษย์วัดคนอื่น  ได้แก่

          ๑. เป็นผู้ช่วยสัปเหร่อเผาศพ  สัปเหร่อก็คือหลวงพ่อเจ้าอาวาส   ท่านจะไม่ให้ผู้ใดยุ่งเกี่ยวกับเมรุเด็ดขาดนอกจากพระที่ท่านไว้ใจ  เพราะท่านกลัวทำเมรุพัง  ส่วนผมต้องไปเมรุกับท่านทุกครั้งที่มีการเผาศพ  หน้าที่ของผมคือต้องทำตามที่ท่านสั่ง  เช่น  เปิดช่องเล็กๆ  ดูซิว่าศพเหลือเยอะไหม  ถ่านใกล้หมดหรือยัง  ตลอดจนการใช้เครื่องมือสามง่ามในการพลิกก้อนเนื้อที่เหลือให้ไฟไหม้  กลัวก็กลัว  เหม็นก็เหม็น 

วันไหน..มีศพ..มาเผาที่วัด..กรรมของผมอีกแล้ว

          ๒. เป็นผู้ให้สัญญาณเวลา  ตีสี่ครึ่ง  ผมต้องถูกหลวงพ่อปลุกให้ไปตีระฆังอยู่บนหอระฆังปลุกพระเณรให้ลุกขึ้นมาทำวัตรเช้า  ตีครั้งใดหมาวัดหอนรับกันเป็นทอดๆ  เหมือนเห็นผี  โอ๊ย...กลัวก็กลัว  กลัวจนไม่กลัวแล้ว

        ชีวิตลูกศิษย์วัด     ปี กว่าจะเรียนจบมัธยมศึกษาปีที่    (ม.ศ. ๕)  จากโรงเรียนมัธยมที่ดีที่สุดของอำเภอรัตนบุรี 

       ตื่นเช้า..สวดมนต์ทำวัตร..เดินตามพระไปบิณฑบาตทุกเช้า  แม้จนถึงวันนี้ก็ยัง..ไม่เคยลืม..พระคุณ..ข้าวก้นบาตร......

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น